lozocatlozocat
"It's my life "
lozocatlozocat

วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2552

คนสามัญประจำบ้าน

จะเรียกว่า "ตกงาน" หรือ "ทำงานอิสระ" ก็แล้วแต่จะกล่าวกันความหมายไม่ได้แตกต่างหรือดูหรูหรากว่ากันสักเท่าไร แม้ว่างานการในปัจจุบันนี้ไม่ได้หายากอย่างเมื่อก่อน แต่ก็ยังมีคนตกงานอยู่เสมอๆให้ได้เห็นประดับสังคมไทยถ้าไม่กล่าวถึงการเลือกทำงาน(ชั้นสูง-กลาง-ต่ำ)แล้ว เรื่องของอายุ สังขาร และความชอบ ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ต้องไม่มีงานทำ เรื่องของความชอบอันนี้ก็ฝืนกันไม่ได้ เป็นเรื่องของจิตใจเรื่องของความถนัด แต่คนเราก็สามารถลองผิดลองถูกได้ งานนี้ตอนแรกคิดว่าถนัด ทำไปทำมาอาจจะไม่เวิร์ค ก็เปลี่ยนกันได้จนกว่าจะพอใจ บางคนเปลี่ยนงานตลอดชั่วชีวิต แต่ก็มีข้อเสียคือ เหมือนเราจะต้องเริ่มนับศูนย์ใหม่ทุกครั้งที่เปลี่ยนงาน แต่ถ้าพบแล้วว่างานนี้ลงตัวก็ควรที่จะยึดเป็นอาชีพไว้ เพราะเวลาอาจจะเหลือน้อยลงๆ อายุก็จะมากขึ้นๆ พูดถึงอายุก็จะเกี่ยวเนื่องกัน สังขาร สองอย่างนี้ก็เป็นปัจจัยสำคัญในการคัดสรรแรงงานหรือพนักงานเพื่อเข้าทำงานในโรงงาน หรือบริษัท อย่างบางบริษัทก็จะเปิดรับพนักงานอายุ ๒๕ปีขึ้นไป คนอายุ ๒๔ปี ก็หมดสิทธิ์ ต้องรอสมัครปีหน้า หรือไม่ก็ต้องมองงานอื่นที่รับพนักงานอายุน้อยกว่านี้ อย่างบางโรงงานก็ประกาศรับ พนักงานอายุไม่เกิน ๓๕ปี คนอายุ ๓๖ปี ก็หมดสิทธิ์ ก็ต้องไปหางานอื่นที่รับอายุมากกว่านี้ ซึ่งก็หายากเต็มที นอกเสียจากว่าจะไปประกอบอาชีพอิสระ ค้าขาย จะเรียกให้หรูก็คือ "ธุรกิจส่วนตัว" ลงมือทำเอง จะมีหุ้นส่วนหรือไม่มี กลัวโดนโกงก็ต้องทำคนเดียว รับผิดชอบคนเดียว เวลาเจ๊งก็จะได้ไม่ต้องไปโทษใคร ถ้าทำ(ธุรกิจ)คนเดียว บริหารคนเดียว อันนี้เรื่องของสังขารก็จะมาเกี่ยวข้อง เพราะทำคนเดียวก็เหนื่อยคนเดียว เครียดคนเดียวเพราะคิดคนเดียว ฉะนั้นต้องระวังรักษา ดูแลสุขภาพกันตัวเองให้ดี การกิน การนอน การพักผ่อน (ซึ่งไม่ได้หมายถึงการนอนอย่างเดียว ยังรวมถึงการผ่อนคลายความเครียดทั้งหลายด้วย )ต้องให้สมดุลย์กัน ไม่หนักไปทางใดทางหนึ่ง กินมาก นอนน้อย นอนมาก กินน้อย ก็ต้องให้สมดุลย์พอดีไม่ขาดไม่เกิน และสำคัญไม่แพ้กันก็คือ เรื่องของการพักผ่อนหย่อนใจ เพื่อลดความเครียดที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน แต่ละช่วงที่ทำงาน
เนื่องจากความเครียดมีผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ ทางด้านร่างกายนั้นหากมีความเครียดสะสมไว้มากก็เป็นสาเหตุให้เกิดโรคภัยใข้เจ็บได้ เช่น โรคเครียดลงกระเพาะ โรคนอนไม่หลับ โรคไมเกรน ความดันโลหิตสูง ฯลฯ ส่วนทางด้านจิตใจนั้นความเครียดนอกจากจะทำสุขภาพจิตเสียแล้ว ยังทำให้สมองสั่งงานผิดพลาด หลงๆลืมๆ ฉะนั้นเราก็ควรที่จะหาทางระบายความเครียดกันอย่างสม่ำเสมอ อย่างเช่นผม ส่วนใหญ่จะเครียดเรื่องแบบว่า ไม่ได้ดั่งใจ อยากได้ อยากมี อยากเป็น แล้วไม่ได้สมใจอยากก็จะเครียด ในเรื่องของการทำงาน ก็จะอยากให้เสร็จเร็วๆ ไม่ผิดพลาด และดีที่สุด ก็จะก้มหน้าก้มตาทำ จนลืมกินข้าวบ้าง ลืมทักทายคนบ้าง ลืมออกกำลังกายบ้าง กลับบ้านก็เอาไปคิดต่อที่บ้าน นอนไม่หลับ หลับก็หลับไม่สนิท ตื่นขึ้นมาก็เพลีย หน้าตาก็โทรม ก็ยิ่งเครียดหนักเข้าไปใหญ่ สุขภาพจิตเสีย สุขภาพกายก็เสีย ความเครียดเหล่านี้ในทางพุทธศาสนา ก็บอกให้เรารู้จักปลง ปล่อยวาง ให้เป็นไปอย่างธรรมชาติ ปฏิบัติทางสายกลาง ไม่ตึง ไม่หย่อนจนเกินไป รู้จักประมาณตน ก็สามารถลดความเครียดลงได้ ลองดูกันครับ