lozocatlozocat
"It's my life "
lozocatlozocat

วันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เดท....ครั้งแรก

คารมเป็นต่อ รูปหล่อเป็นรอง คำกล่าวนี้อาจจะใช้ไม่ได้ทุกโอกาสเสมอไป โดยเฉพาะกับคนที่ไม่หล่อ แถมคารมก็ไม่สู้ดีนักอย่างผม จึงไม่ค่อยได้เห็นภาพผมควงคู่สาวที่ไหน วันๆก็จะทำงาน พบปะก็เฉพาะลูกค้าที่มาติดต่องาน เพื่อนร่วมงานก็มีแฟนแล้ว เห็นเค้ามากันเป็นคู่ๆ ก็รู้สึกว่าทำไมเราช่างไม่มีใคร ช่างเหงาซะเหลือเกิน ข้าวเย็นก็กินคนเดียว เดินห้างก็เดินคนเดียว เพราะเพื่อนๆเค้าพักอยู่ไกลเดินทางกันนานกว่าจะไปถึงก็ค่อนวัน นานๆไปทีก็พอไหว ขากลับกว่าก็จะถึง ช่วงนั้นก็ยังไม่มีโทรศัพท์มือถือทำให้ติดต่อกันยาก

แต่แล้วโลกก็ได้หมุนให้ผมได้มาเจอกันกับสาวคนนี้ ที่มีชื่อว่า "น้องอ้อม" น้องอ้อม ตากลมผมยาว เป็นเพื่อนของลูกค้าที่มาติดต่องานกับผม ก็จะเจอกันเป็นประจำ มองไปมองมาก็รู้สึกว่า น่ารักดี อัธยาศัยดี พูดดี ดูเป็นผู้ใหญ่ อะไรก็ดูดีไปหมด แล้วผมก็แอบถามข้อมูลจากเพื่อนเค้าก็ทราบอีกว่าเค้าเป็นหัวหน้าคิวซี ของบริษัท ผมก็ถึงบางอ้อว่า มิน่าเล่า ถึงได้ดูดีขนาดนั้น ซึ่งต่างจากผมมาก(แค่พนักงานรัฐวิสาหกิจ ระดับปฏิบัติการ) ด้วยเหตุว่า ผมมักจะถามเพื่อนเค้าบ่อยๆเวลาที่มาติดต่องาน เพื่อนเค้าก็เลยรู้ว่าแอบสนใจน้องอ้อมอยู่ ก็เลยให้เบอร์โทรศัพท์มา "สนใจอ้อมเหรอ.." "..อืมม..น่ารักดีนะ..." "เอาเบอร์ไปสิ...เค้าก็สนใจพี่เหมือนกันนะ.." ผมก็ได้แต่ยิ้ม เพราะไม่รู้ว่าอำหรือเปล่า แต่ก็รับเบอร์โทรมา

ด้วยความที่ไม่เคยจีบใครเป็นเรื่องเป็นราวทำให้ผมไม่กล้ากดเบอร์โทรไปหาน้องอ้อมสักที เพราะกลัวว่าพูดผิดเดี๋ยวเป็นเรื่อง จนกระทั่งหลายวันต่อมา เค้าก็มาติดต่องานกับเพื่อนอีกครั้ง ก็เห็นแล้วว่าน้องเค้ายิ้มมาแต่ไกล ผมก็ทั้งตื่นเต้นทั้งแปลกใจ ดีใจ ทำอะไรไม่ถูก ก็ได้แต่ยิ้มตอบ จะทักก็ไม่กล้าทัก เพื่อนน้องอ้อมก็ไปติดต่องานที่ช่องอื่นปล่อยให้น้องอ้อมเดินตรงรี่มาที่ช่องผม "พี่...ไม่เห็นโทรหาเลย..." น้องอ้อมเอ่ย พร้อมด้วยรอยยิ้มหวานๆ "เอ่อ...พอดีช่วงนี้งานยุ่งๆนะครับ.." ผมก็อ้อมแอ้มแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆด้วยความเขิน "เหรอค่ะ...ว่างเมื่อไหร่ก็โทรได้นะค่ะ..." เราคุยกันได้สักพัก เพื่อนน้องอ้อมก็มาเรียก เพราะเสร็จธุระแล้ว ก่อนกลับน้องอ้อมก็ทิ้งรูปไว้ให้ดูต่างหน้า พร้อมข้อความด้านหลัง "พี่...น่ารักมาก..." ผมงี้ยิ้มหน้าบาน โอ้...ช่างเป็นวันที่สดใส หัวใจพองโตเสียยิ่งกระไร

ตกเย็นหลังเลิกงานวันนั้น ผมก็รวบรวมความกล้าเท่าที่ติดตัวมาจากบรรพบุรุษ ต่อโทรศัพท์ไปหาน้องอ้อม ตุ๊ด..ตุ๊ด...ตุ๊ดๆๆ
"สวัสดีครับ.."
"สวัสดีค่ะ..."
"ขอ..สายน้องอ้อมครับ.."
"พี่เหรอ.....ดีใจจัง"
แล้วเราก็สนทนากันไป ช่วงไหนว่างก็จะโทรหา แต่เรื่องทีคุยก็เริ่มน้อยลงๆ เพราะผมเองก็คุยไม่ค่อยเก่ง จะจีบเลยก็ไม่กล้า กลัวเค้าจะเลิกคบ จนกระทั่งเวลาผ่านไปอย่างไม่รู้ตัว
"พี่...วันอาทิตย์นี้ว่างไม๊..."
"ครับ...ก็พอว่างครับ.."
"ไปดูหนังกันไม๊..." น้องอ้อมชวน (ดู่...ดู้...ดู ให้สาวเอ่ยปากชวนไปดูหนัง นึกขึ้นตอนไหนก็อายตอนนั้น) ผมก็คิดอยู่ตั้งนาน เพราะตั้งแต่มาอยู่กรุงเทพฯ ก็ไม่เคยเฉียดเข้าไปไกล้โรงหนังสักที ซื้อตั๋วก็ไม่เป็น แต่ก็....
"ได้ครับ.....ดูเรื่องอะไรหละครับ..." แต่ตอนนั้นสมองปั่นป่วนมาก อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดหละวะ จะไปถามใครก็อาย ว่าดูหนังยังไง ซื้อตั๋วไม่เป็น ก็คนไม่เคยนิ

แล้วก็ถึงวันนั้น น้องอ้อมยังคงน่ารักเหมือนเคย ส่วนผมก็พยายามเต็มที่(ไม่รู้ว่าเป็นไง)แต่ก็ไม่ต่างจากชุดฟอร์มทำงาน เป็นการออกเดทแบบงงๆ(ของผม)ผสมความง่วง เพราะเมื่อคืน ซ้อมดนตรีกับเพื่อนจนดึก แต่ก็สู้(โว้ย) น้องอ้อมก็คง งงๆด้วยเช่นกัน ที่เห็นท่าทางผมอย่างนั้น คือทำอะไรไม่ถูก เหมือนคนที่เพิ่งเคยเข้าโรงหนังครั้งแรก ก็เลยชวนกินอะไรรองท้องก่อน แล้วเค้าก็ไปซื้อตั๋วให้(น่าอายไม๊...เนี่ยะ) แล้วก็เข้าไปในโรงหนัง หนังก็เริ่มฉายไปสักพัก ด้วยความง่วงประกอบกับกินข้าวอิ่มท้อง ก็เลยเข้าตำรา "หนังท้องตึง..หนังตาหย่อน" ผมไม่รู้ตัวว่าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ จนกระทั่ง "พี่...หนังจบแล้ว" ผมก็สะดุ้งตื่น งัวเงีย งงๆ เห็นน้องอ้อม หน้าตาไม่ค่อยดูดี ก็เลยแก้ตัวไป ว่าเมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ แล้วผมก็พาเค้าไปส่งที่ป้ายรถเมล์ ท่าทางน้องอ้อมจะผิดหวังกับตัวผมมาก เธอก็เงียบหายไปหลายวัน โทรไปหาก็ไม่รับสาย ผมก็เริ่มรู้ตัวแล้วว่า คงต้องจบแล้ว ผมทิ้งเวลาประมาณหนึ่งอาทิตย์ให้ความเงียบสงบจิตใจ แต่ด้วยความอะไรดลใจผมก็ไม่ทราบให้เกิดความคิดที่ว่า น่าจะรู้จากปากเธอดีกว่า เราอาจจะคิดไปเองก็ได้ ก็เลยโทรไปหาน้องอ้อมอีกครั้ง ครับ....คราวนี้ได้ผล มีคนรับสาย....แต่เป็นผู้ชาย..

"สวัสดีครับ...ขอสายน้องอ้อมครับ"
"ครับ...น้องอ้อมไม่อยู่ครับ"
"ครับ...แล้วจะโทรมาใหม่นะครับ.." ผมถอนหายใจ เริ่มเห็นลางร้าย แต่ก็ไม่วาย หัวใจสะออน โทรไปหาเค้าอีก
"สวัสดีครับ...ขอสายน้องอ้อมครับ"
"ครับ...น้องอ้อมไม่อยู่" ครับเป็นชายคนเดิม แต่น้ำเสียงแข็งขึ้น
"ขอคุยกับน้องนิดนึงได้ไหมครับ.."
"น้องอ้อมเค้าไปกับแฟนเค้าแล้วคุณ... เค้าไม่อยู่หรอก..." ความจริงคำนี้ผมอยากได้ยินจากปากน้องอ้อมมากกว่า แต่เค้าคงไม่อยากคุยกับผมจริงๆ ก็เลยให้คนอื่นรับแทน ผมก็เสียใจพอประมาณ เพราะรู้ว่าตัวเองผิดอย่างไม่น่าให้อภัย ก็ได้แต่ทิ้งความหลังให้เลือนไปอย่างเงียบๆ ปล่อยให้น้องเค้าได้ไปพบกับผู้ชายดีๆอย่างที่ควรจะเป็น โชคดีครับ...น้อง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น